วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555

บทความที่ 3 การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม กับความคาดหวังของสังคมไทย

จากกระแสโลกาภิวัตน์ที่ผลักดันให้สังคมไทยมุ่งความสำเร็จทางวัตถุ  คนในสังคมแสวงหาความสำเร็จในชีวิตทางด้านเศรษฐกิจ  บ้างก็แสวงหาอำนาจ  บ้างก็แสวงหาผลประโยชน์  จนหลายคนมองเห็นตรงกันว่าปัจจุบันสังคมไทยเริ่มอ่อนแอลงเรื่อย ๆ และกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤติหลายด้าน  ทั้งด้านการเมือง การศึกษา ศาสนา  เศรษฐกิจ  สังคม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่พึงวิตกกังวลยิ่งนั่นคือ  คุณธรรม จริยธรรมของคนไทยเริ่มถดถอยอันเป็นต้นเหตุที่จะนำไปสู่วิกฤติให้แก่สังคมไทย ในอนาคต
ถ้าพิจารณาพื้นฐานปัญหาคุณธรรมจริยธรรมของเด็กและเยาวชนไทย  ส่วนหนึ่งและอาจจะเป็นส่วนใหญ่ปัญหานั้นเริ่มจาก “ปัญหาด้านครอบครัว”  ซึ่งเกิดจากการที่ครอบครัวแตกแยก พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน พ่อแม่ไม่มีเวลาให้บุตรหลาน การใช้ความรุนแรงในครอบครัว และอื่น ๆ อีกมากมาย  ซึ่งประเด็นปัญหาของสังคมที่ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนไทยลำดับต้น ๆ  เช่น  ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว  ซึ่งจะนำไปสู่การมีความรัก  การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร  รวมถึงภัยจากสื่อเทคโนโลยี โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ต  และการเข้าถึงอบายมุขทั้งเหล้า บุหรี่ ยาเสพติดได้ง่ายดาย  และที่สำคัญคือ “การขาดแบบอย่างที่ดี” นั่นเอง


บทความที่ 2 เรื่อง คุณธรรม จริยธรรม สำหรับข้าราชการ

หลังจากที่ผมได้ตัดสินใจศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขาบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากมาย สิ่งที่ไม่เคยรู้ เช่น หลักในการบริหารจัดการสถานศึกษา คุณธรรม จริยธรรม ในการบริหาร ภาวะผู้นำ ฯลฯ เป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ในทางการบริหาร มีอะไรอีกมากมายที่ได้เรียนรู้ ดังนั้น ข้าราชการยุคใหม่อย่าคิดแบบน้ำเต็มแก้วตลอดเวลา ต้องคิดแบบน้ำล้นแก้วและน้ำพร่องแก้ว มีอยู่ 2 ทางถ้าเราไม่เจ๋งพอ เราก็คิดแบบน้ำพร่องแก้ว เพราะเราจะได้ความรู้มาเติมเต็ม และถ้าหากต้องการไปมากกว่าเดิม ก็คิดแบบน้ำล้นแก้ว ถ้าเป็นน้ำเต็มแก้ว มันก็ไม่รู้จะไปไหนต่อแล้ว อย่าไปคิดว่าเมื่อเรามีความรู้เยอะๆ แล้วมีคนมาสอบถามเยอะๆ ไม่ต้องไปกลัวว่า เขาจะมาแย่งอาชีพเรา หรือมาแย่งความรู้ของเรา ถ้าเขา Born to be ถึงเราไม่ต้องบอกเขา เขาก็ต้องเกิดมาในแวดวงตรงนี้อยู่แล้ว มาแชร์ความรู้สึกที่ดีต่อกันไม่ดีกว่าหรือ สิ่งสำคัญการที่สุดการเป็นข้าราชการต้องมี คุณธรรม และจริยธรรม ตลอดเวลา


บทความที่ 1 คุณธรรม จริยธรรม


  ความหมายของคุณธรรม จริยธรรม คำว่าจริยธรรม ซึ่งตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Morality ได้มีผู้ให้ความหมายไว้ ดังนี้
โชติ เพชรชื่น (2524 : 23) กล่าวว่าจริยธรรม ก็คือ “จริยะ” แปลว่าความประพฤติกิริยาที่ควรประพฤติ “ธรรม” คือ ความดี เมื่อรวมความหมายของสองคำเข้าด้วยกันคือ ความประพฤติดี กรมวิชาการ (2524 : 3-4) ไดให้ความหมายจริยธรรมว่าเป็นแนวทางของการประพฤติชอบทั้งกาย วาจา และใจ เพื่อประโยชน์ต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคม
กระทรวงศึกษาธิการ (2548 : 2) ให้ความหมายคูณธรรมไว้ว่า สิ่งที่บุคคลส่วนใหญ่ยอมรับว่าดีงาม ซึ่งส่งผลให้เกิดการกระทำที่เป็นประโยชน์ และความดีงามที่ดีที่แท้จริงต่อสังคม
จริยธรรม หมายถึง สิ่งที่บุคคลหรือสังคมยึดถือเป็นเครื่องมือช่วยตัดสิน และกำหนดการกระทำของตนเอง
โคล เบอร์ก (Kohlberg). 1976 : 4-5) ได้ให้ความหมายของจิยธรรมไว้วา จริยธรรมมีพื้นฐานของความยุติธรรม คือมีการกระจายสิทธิและหน้าที่อย่างเท่าเทียมกัน โดยมิได้หมายถึงเกณฑ์บังคับทั่ว ๆ ไป แต่เป็นเกณฑ์ที่มีความเป็นสากลที่คนส่วนใหญ่รับไว้ในทุกสถานการณ์ ไม่มีการขัดแย้งเป็นอุดมคติ